ดราม่าเขย่าพาร์คเฮด! "ร็อดเจอร์ส" ลาออก "เจ้าของเซลติก" ซัดแหลก "เห็นแก่ตัว-สร้างความแตกแยก"

สโมสรเซลติก เอฟซี ยืนยันการลาออกของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม หลังพาทีมพ่ายแพ้ต่อฮาร์ทส์ 3-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่สถานการณ์กลับทวีความดุเดือด เมื่อ เดอร์ม็อต เดสมอนด์ ผู้ถือหุ้นหลักของสโมสร ออกแถลงการณ์โจมตีร็อดเจอร์สอย่างหนักว่า "สร้างความแตกแยก" และ "เห็นแก่ตัว"

การคุมทีมคำรบสองของร็อดเจอร์สสิ้นสุดลง โดยทิ้งให้เซลติกตามหลังคู่แข่งถึง 8 คะแนน สโมสรได้แต่งตั้งอดีตผู้จัดการทีม มาร์ติน โอนีล และอดีตผู้เล่น ฌอน มาโลนีย์ เข้ามาคุมทีมชั่วคราว

แถลงการณ์อำลา... ที่ไม่ธรรมดา

ในขณะที่แถลงการณ์เริ่มต้นของสโมสรเป็นไปอย่างเป็นทางการ โดยขอบคุณคุณูปการของร็อดเจอร์สและอวยพรให้เขาโชคดี แต่ เดอร์ม็อต เดสมอนด์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้ออกแถลงการณ์ส่วนตัวตามมา ซึ่งเต็มไปด้วยการตำหนิอดีตผู้จัดการทีมอย่างรุนแรง

เดสมอนด์กล่าวหาว่าร็อดเจอร์สทำลายความไว้วางใจ และพฤติกรรมของเขาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา "ไม่ได้สะท้อนถึงความไว้วางใจนั้น"

"ผมต้องแสดงความผิดหวังอย่างสุดซึ้งต่อสิ่งที่เกิดขึ้น... ตอนที่เรานำเบรนแดนกลับมาสู่เซลติกเมื่อสองปีก่อน เราทำไปด้วยความไว้วางใจและความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยม"

แฉปมขัดแย้งเรื่องสัญญาและการซื้อขาย

เดสมอนด์ได้เปิดเผยว่า สโมสรได้ยื่นข้อเสนอต่อสัญญาฉบับใหม่ให้กับร็อดเจอร์สตั้งแต่เดือนมิถุนายน แต่ร็อดเจอร์สกลับ "พูดเป็นนัย" กับสื่อว่าสโมสรไม่ได้ให้คำมั่นสัญญาใดๆ ซึ่งเดสมอนด์ยืนยันว่า "นั่นไม่เป็นความจริงเลย"

ประเด็นที่ร็อดเจอร์สมักวิจารณ์บอร์ดบริหารเรื่องการซื้อขายนักเตะ ก็ถูกเดสมอนด์สวนกลับอย่างหนักแน่น:

"ผู้เล่นทุกคนที่เซ็นสัญญาเข้ามาและผู้เล่นทุกคนที่ขายออกไประหว่างที่เขาดำรงตำแหน่ง ล้วนทำไปด้วยความรับรู้, การอนุมัติ และการรับรองอย่างเต็มที่จากเบรนแดน การพูดเป็นนัยอื่นใดถือเป็นความเท็จอย่างสิ้นเชิง... ในความเป็นจริง เขาได้รับสิทธิ์ในการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในเรื่องฟุตบอลทั้งหมด และได้รับการสนับสนุนอย่างสม่ำเสมอในกระบวนการสรรหานักเตะ"

เดสมอนด์ยังเล่าว่า เขาได้นัดพบกับร็อดเจอร์สเป็นการส่วนตัวนานกว่า 3 ชั่วโมงเพื่อเคลียร์ปัญหา แต่ "เขากลับไม่สามารถระบุตัวอย่างแม้แต่ครั้งเดียวที่สโมสรขัดขวางหรือไม่สนับสนุนเขา"

"สร้างบรรยากาศเป็นพิษ"

ผู้ถือหุ้นใหญ่ของเซลติกกล่าวหาว่า คำพูดของร็อดเจอร์สมีเจตนาเพื่อประโยชน์ส่วนตน และส่งผลเสียร้ายแรงต่อสโมสร

"น่าเสียดายที่คำพูดและการกระทำของเขานับตั้งแต่นั้นมา ล้วนเป็นการสร้างความแตกแยก, ทำให้เข้าใจผิด และเป็นการกระทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง"

"สิ่งเหล่านั้นมีส่วนทำให้เกิดบรรยากาศที่เป็นพิษ (toxic) รอบสโมสร และกระตุ้นให้เกิดความเป็นปรปักษ์ต่อสมาชิกของทีมผู้บริหารและบอร์ดบริหาร... สิ่งที่ล้มเหลวเมื่อเร็วๆ นี้ ไม่ได้เกิดจากโครงสร้างหรือรูปแบบของเรา แต่เกิดจากความปรารถนาในการเอาตัวรอดของคนเพียงคนเดียว โดยไม่สนใจผู้อื่น"

เดสมอนด์ปิดท้ายแถลงการณ์โดยย้ำว่า "เซลติกยิ่งใหญ่กว่าคนเพียงคนเดียว" และเป้าหมายของสโมสรในตอนนี้คือ "การฟื้นฟูความสามัคคี" และสร้างสโมสรที่คู่ควรแก่แฟนบอลต่อไป